เคยได้ยินกันมั้ย? เวลาเราออกรถมาใหม่ๆ ทำไมใครๆมักบอกว่า ‘ให้รันอินก่อน’ แล้วรันอิน คืออะไรกันล่ะ? วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว ตามมาดูกันเลย….
การรันอิน (Run In)
คือ การปรับสภาพชิ้นส่วนต่างๆ หรือการปรับความคุ้นเคย ของรถใหม่ที่เพิ่งออกมาจากโรงงานให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เนื่องจากรถใหม่ที่เราเพิ่งถอยออกมาจากศูนย์หรือร้านตัวแทนจำหน่ายกันหมาดๆนี้ คือรถมือหนึ่งใหม่เอี่ยมอ่อง และแน่นอนว่าแม้จะมีการทดสอบสภาพและตรวจเช็คมาตรฐานก่อนออกจากโรงงานมาแล้วก็ตาม แต่อุปกรณ์ต่างๆยังเป็นของใหม่และมันก็ยังไม่ได้ถูกใช้งานจนถึงจุดที่เครื่องยนต์จะเข้าที่และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
ถ้าพูดกันง่ายๆ การรันอิน อาจแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
1. รันอินรถ
เมื่อเครื่องยนต์ที่มีความสดใหม่จากโรงงาน ชิ้นส่วนภายในที่เพิ่งจะเริ่มทำงานกันใหม่ๆ ย่อมยังขาดความเข้าที่เข้าทางของชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์ และน้ำมันเครื่องที่ยังไหลไปเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ ยังไม่ทั่วถึงระบบในเครื่องยนต์ได้ 100%
ฉะนั้นในช่วงระยะแรก เราจึงยังไม่ควรที่จะขี่ซัดแบบจัดหนัก จัดเต็ม บิดแช่ยาวๆหรือลากรอบแช่เป็นเวลานานในช่วงระยะแรกนี้ เพราะอาจจะทำให้มีผลต่ออายุการใช้งานของรถในระยะยาวได้ แต่แนะนำให้ใช้งานขับขี่ทั่วๆไปให้ชินเสียก่อน และเมื่อครบระยะ 1,000 กิโลเมตรแล้ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการเช็คระยะและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเราอาจจะสังเกตได้ว่า น้ำมันเครื่องที่ถูกถ่ายออกมานั้น อาจมีเศษโลหะเล็กๆ ไหลปนออกมาด้วย นั่นก็เพราะเกิดจากชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์ที่เกิดการเสียดสีในระยะแรก ก่อนที่หน้าสัมผัสของแต่ละชิ้นส่วนจะทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
สรุป วิธีการรันอินรถง่ายๆ ทำได้ดังนี้
- เมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์แล้ว ควรรอสักพักเพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลขึ้นมาทั่วเครื่องยนต์เสียก่อน
- ในช่วงแรกให้ขับขี่โดยใช้รอบต่ำ-รอบกลาง หรือถ้าต้องใช้ความเร็วจริงๆ ไม่ควรลากรอบแช่เป็นเวลานาน
- เมื่อครบ 1,000 กิโลเมตรแรก ให้นำรถเข้าเช็คระยะที่ศูนย์บริการและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
1. รันอินรถ
รันอินคน คืออะไร? หลายคนคงมีคำถามในใจตั้งแต่อ่านหัวข้อนี้ ถ้าให้อธิบายง่ายๆก็คือ การทำความรู้จักกันระหว่างคนกับรถนั่นเอง เพราะนอกจากตัวรถจะใหม่ คนเองก็ถือว่าใหม่กับรถคันนี้ด้วยเช่นกัน หรือเคยมั้ย? ที่เรามักจะได้ยินข่าวว่ายืมรถเพื่อนไปลองขี่แล้วล้มบ้างอะไรบ้าง สาเหตุส่วนหนึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะคนขี่ยังไม่มีความคุ้นชินกับรถก็เป็นได้ เพราะทักษะการขับขี่ของรถแต่ละประเภทนั้นอาจแตกต่างกันออกไป แม้บางคนจะขี่รถเป็นอยู่แล้ว แต่เมื่อเราเปลี่ยนไปขี่รถคันใหม่ ก็ต้องทำความเข้าใจใหม่เช่นกัน หรือถ้าให้เปรียบง่ายๆ ก็เหมือนเวลาเราเปลี่ยนแฟนใหม่ ก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้กับคนใหม่เช่นกันใช่มั้ยยยย