GPX Legend 250 Twin บางภาพถ่ายในโซเชี่ยล เป็นจุดเริ่มต้นให้เราออกเดินทางบางครั้งถนนที่เราเคยผ่านหลายครั้งหลายหน ยังมีมุมมองที่ซ่อนอยู่จากมุมสายตาในเวลาขับขี่ต้องยืนอยู่อีกมุมจึงประจักษ์ในทัศนียภาพนั้น เหตุนี้เราจึงออกไปค้นหามาเพื่อส่งต่อและปันประสบการณ์ร่วมกัน
อีกหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่ทำให้มีทริปนี้ คือลายแทงจากภาพนี้ เออ ทับเบิกเนี่ย นอนบ้านก็เคยไป นอนเต็นท์ก็เคยนอน แต่กระต๊อบแบบนี้ยังไม่เคยลองต้องไปๆ
ถึงเวลาที่วางแผนไว้ เก็บของยัดลงกระเป๋ากันน้ำตามฤดูกาล ไปแค่คืนเดียว ของเยอะไปนะ…
เช้าแล้ว กอดลูกแล้ว เดินทางได้!!
จากบ้านดอน อ.อู่ทอง จะเลาะออกไปทางชัยนาท…สะดุดตา อะไรกันหว่า!!
(ถัดจากป้ายแฝดป้ายนี้ไปอีก 500 เมตร มีหลักกิโลเมตรบอกว่า …สุพรรณบุรี 12 กิโลเมตร…ฮ่วย!!)
ถ้าไม่มีมุมนี้ เดี๋ยวบางคนนึกว่าเข้าผิดกระทู้ ยี่ห้อนี้ไม่มีผิดหรอกจ้า รวบสองมื้อตามเคย
ดันไปเรื่อยๆกลางแดด บ่ายนี้มีภารกิจสำคัญต้องไปพบสมาชิกใหม่ จอดพักไปเรื่อยๆจ้า
แวะเติมน้ำมันที่เก้าเลี้ยว
จุดจอดประจำในปั้ม วางของแล้วบอกพนักงานว่าขอจอด+ฝากดูรถหน่อยนะ แล้วก็ไปหลบแดดในเว่นแปบนึง
ถึงแลนด์มาร์คนี้กับฮาจิโกะ ไทยแลนด์ ก็แปลว่าใกล้ที่หมายแรกแล้ว
ไม่กี่วันก่อนนี้ เห็นข่าวดีจากหน้าฟีด ได้หลานสาวน่ารักมาอีกคน แวะไปรับขวัญน้องมะลิเลยจ้า น่ารักๆ อยากได้ลูกสาวเลยล่ะ
ใจลอยๆมาจอดตรงนี้ สิบนิ้วประนมวอนขอในใจ ลูกเคยมีความสุขมากๆครั้งหนึ่งข้างในนั้น ภาพจำมาปักใจ ถ้าเข้าไปคงแย่ ขอลูกกราบพระพุทธจากตรงนี้นะครับ
ไหลตามความทรงจำมาเรื่อยๆ มาถึงตรงนี้ … กม.ที่เท่าไรนะ
หมดปลอกจากเก้าเลี้ยว แวะเติมอีกทีก็แคมป์สน อัตราสิ้นเปลืองตามภาพครับผม
แวะเรื่อยเปื่อย มาถึงนี่ก็เกือบๆห้าโมงเย็นแล้ว แวะเว่นตีนภูเก็บเสบียงแล้วค่อยๆไหลขึ้นไปเสพความงาม
มาเรื่อยๆไม่รีบ แวะตรงนี้ชมกังกันลมเขาค้อสักหน่อย
กว่าจะถึงที่นอนคืนนี้ เกือบๆจะหกโมง แต่แดดยังเปรี้ยงมากกกกก โพสต์ลงเฟซไปมีน้องมาบอกว่าวันนี้วันครีมายัน มิน่าล่ะ เหมือนโดนบูชายันกลางแดดทั้งวันก็มิปาน แต่เจอวิวนี้ หายเหนื่อยนะ แต่หงาอ่ะ…ไม่หาย…
ค่าเสียหายของกระท่อมในคืนนี้ 800 บาทถ้วน (คืนวันอาทิตย์) (จริงๆอยากเรียกกระต๊อบมากกว่า ๕๕๕)
ถามว่าจองยากไหม…เจ้าของบอกกระท่อมไม่รับจองจ้า ต้องเดินชนเอง ดวงใครดวงมัน
อินี่ก็โซโล่แวะมาทั้งวันยังอุตสาห์ว่างแน่ะ
ดวงเดินทางดีตลอด แต่ดวงความรักนี่ปัง!! ปังพินาศจ้า
นี่แหละชีวิต…Lucky in game, Unlucky in Love
บ่นเพ้อไปนั่น ชมสภาพทัศนียรอบๆกระท่อมกันครับ บรรยากาศดีพอได้ แต่ความเก๋เอาไป 20/10 คะแนน!!
สภาพในกระท่อม เก๋ไปอีกแบบ ไฟบนหัวหนึ่งดวงแต่แสงบางๆมาก หมอนสองใบกับใจเหงาๆ เอ้ยยยย ไม่ใช่!! หมอนสองใบแต่คืนนี้นอนคนเดียว ผ้าห่มผ้านวมพอแก้หนาวได้ (สามทุ่มนี่เริ่มหนาวจัดละ) รอบๆกระท่อมด้านนอกจะบุผ้าไวนิลไว้กันลม ด้านในบุผ้าล้อมไว้อีกที พอดูได้ว่าฝนมาน้ำไม่เข้า แต่ถ้าลมมาหนักๆนี่…คงรอดแหละดูออก
เห็นพื้นที่ข้างเคียงเขามากันเป็นคู่บ้าง เป็นตี้บ้าง แต่ละแห่งก็มีหมูปะทะมาอุ่นไอ…
ตอนแรกก็เหงาแล้วนะ เจอปัจจัยเหล่านี้ก็ยิ่งเหงาเข้าไส้ กินคนเดียวจะหมดไหมๆๆ ท่องในใจสามจบ เดินขึ้นไปข้างบน…
พี่ครับ เอาหมูกะทะชุดนึงครับ ตับไตไส้พุงของผมพร้อมจะปะทะความจริงแล้ว!!
พี่ก็ใจดี เอ้า จ่ายรวมค่ากระท่อมเลยแล้วกัน ลดให้ร้อยนึง สิริรวมแล้วเหลือพันถ้วน!! เออออ ดีย์!!
ทั้งเหงาทั้งหิวปนกัน เอามันมาวางเซ่นอารมณ์ดิบๆในใจ ตอนแรกก็ว่าจะเอามาเป็นพร๊อบนะ(ข้ออ้าง)
ไปๆมาๆ….โปรดติดตามตอนต่อไปจ้า
ลองจินตนาการเสียงประกอบภาพนี้นะ…มันเยียวยาจิตใจได้เลย
ตั้งปลุกหกโมงเช้า กะว่ามาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นแสงนวลๆ แง้มม่านมาแดดเปรี้ยงเลยจ้า จบข่าววววว หมอกก็หงอยมากๆ แต่ก็ได้วิวแบบเปิดๆแทน ชีวิตก็แบบนี้แหละ มันไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าไม่คาดหวังก็ไม่เจ็บปวด แต่มันะจเป็นไปได้เหรอที่จะอยู่โดยไม่คาดหวังอะไร…
ได้เวลาประกอบพิธีกรรมของนักเดินทาง…
ต้มมาม่าจนฟูฟ่อง…
ตาเหลือบไปเห็นข้างบน เอ๊ะ เขาทำอะไรกัน
อย่างที่บอก ถ้าไม่ได้ตากล้องมาเสริมทัพ จะไม่ได้ภาพดีๆแบบมุมนี้แน่นอน
ภาพปกกระทู้ก็เช่นกัน
ไม่ได้หวงมุมถ่ายภาพนะ แต่ใบ้ให้ดีกว่า
นึกออกไหม ใกล้ๆมุมมหาชนแหละ ไม่ง่ายนะที่จะเอาจุดที่เอามอเตอร์ไซค์เข้าไปได้มุมแบบนี้
พูดถึงคำว่า “ทับเบิกเซอร์กิต” ถ้าในมุมการใช้ชีวิตปกติไม่เห็นด้วย…
แต่ลองนึกภาพถ้าเป็นแบบ Pike Peak ล่ะ รับสมัครนักแข่งกล้าตายจากทั่วโลกมาชิงชัย
ปิดถนนสามวัน ให้จอดรถข้างล่าง รถขนส่งคนขึ้นลงใช้รถรั้วขนกระหล่ำมาดัดแปลงให้ชาวบ้านมีรายได้และได้ควบคุมอุบัติเหตุ รับส่งนักท่องเที่ยวและผู้ชมการแข่งขันเข้าที่พักและสแตนด์ต่างๆเพื่อชมรอบซ้อม
วันศุกร์เปิดซ้อมให้วิ่งซ้อมสลับเวลากับรถขนส่งผู้ชมที่จะขึ้นมาชมการแข่งขัน สองข้างทางมุมสวยๆให้ท้องถิ่นทำสแตนด์เก็บบัตร จะมีสปอนเซอร์ยังไงก็ว่ากันไปให้ท้องถิ่นมีรายได้
วันเสาร์แข่งสองเรซ วันอาทิตย์แข่งอีกสองเรซ แค่คิดก็เห็นภาพตำนานความเร็วอีกแห่งหนึ่งของโลกแล้วนะ
เช้านั้นหมอกไม่มาเป็นทะเลหมอกใหญ่ๆ แต่มาแบบฟุ้งๆแทน ต้องมีซ่อมอีกแหละดูออก
ไฮไลท์ของกระทู้นี้มาถึงแล้วจ้า ขี่ผ่านไม่รู้กี่รอบก็ไม่เคยรู้ว่ามี พอเห็นคนโพสต์ก็นึกไม่ออกว่าตรงไหน ขี่จรวดมารอบก่อนได้น้องอาร์ม บอสของ Otobike TV https://www.facebook.com/OtobikeTV/ พามาชี้จุดเกิดเหตุ เดี๋ยวรอกระทู้ “คิดถึงเขาเลยขี่จรวดไปหาเขา”นะ มีรูปเด็ดๆให้ดูจ้า
ภาพนี้ตากล้องต้องลงทุนเสี่ยงชีวิตปีนเขาไปเอาเทเลอัดลงมา ขอกราบหัวใจตากล้องไว้ ณ ที่นี้ เสียดายแสงมันแข็งมากกกก แบบนี้ต้องซ่อมแหละ อิอิ
ได้เวลาลงจะภูทับเบิกแล้วล่ะ…ใจหายแว้บนะ แต่ก็นะ เดี๋ยวเบื่อๆก็มาอีก ๕๕๕
มาถึงถิ่นทั้งที เด็กหล่มเก่าจัดให้ไม่เสียเที่ยว คนแถวนี้เขานัวกันร้านนี้ จัดว่าเด็ดและไม่แพง ตามลายแทงมาเลยจ้า
สี่โมงกว่าๆก็เก็บโน๊ตบุ๊คแล้วไหลออกมาเรื่อยๆถึงศรีเทพ ข้างหน้าเหมือนยานแม่ลง เครๆ แวะอีกทีเนอะ
แวะร้านนี้ประจำครับ นี่ก็เมนูประจำเช่นกัน กระเพราไข่ปัสวะม้า+ไข่ดาวไม่สุข กินไปคุยกับลุงกับป้าไป ลุงกับป้าไม่เคยจำได้ เพราะมาแต่ละทีไม่ใช่รถคันเดียวกันตลอด ๕๕๕
ปิดทริปลายแทงเลขสามบนภูทับเบิกไว้ตรงนี้ครับ ขอบคุณกัลยานมิตรทุกท่านที่ติดตามรับชมมาจนจบครับ