GPX DEMON GR200R ทะเลหมอก…หากได้กล่าวถึงคำๆนี้ เราท่านมักคุ้นเคยกับทิศเหนือ แต่ทะเลหมอกในแดนใต้ นั้น มักไกลห่างความคุ้นชินแต่จะไม่มีนั้นก็หาไม่
โจทย์ในการเดินทางครั้งนี้ของเรานั้น ต่างจากที่เราคุ้นเคย
พอเราตั้งโจทย์ถึงทะเลหมอก และต้องเป็นทะเลหมอกที่เราขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดถ่ายกับวิวนั้นได้
เอาใกล้ๆเท่าที่คิดออกก่อนเลยก็เขาค้อ ทับเบิก
ไกลก็ออกไปก็ต้องขึ้นไปเหนือกว่านั้น จะเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ก็ว่ากันไปตามความคุ้นชิน
พอลองมาคิดถึงทะเลหมอกภาคใต้ตามโจทย์ดังกล่าว จากที่คิดว่าง่าย มันก็ท้าทายกว่าขึ้นมาทันที
ทว่า..โจทย์ครั้งนี้กลับไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เมื่อเราเปลี่ยนรสชาติของการเดินทางด้วย “มอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ต”
อย่างเจ้า GPX DEMON GR200R นั่นเอง บันเทิงล่ะทีนี้ เคยหมอบไปไกลๆขนาดนั้นเสียที่ไหน
ซับซ้อนไปกว่านั้น เมื่อตั้งเป้าไว้ถึงสามทะเลหมอก ไอ่จะขี่ไปหยอกคนเดียวคันเดียวเกรงว่าจะจืดชืด
คิดๆหาบัดดี้คู่ใจรอบนี้กับทางไกลๆแบบนี้(แถมยังเป็นวันธรรมดา…) ไม่ง่ายๆ ไม่ง่ายจริงๆ
แต่จนแล้วจนรอด ก็ได้มือดีคู่ใจที่เป็นตำนานของนักรีวิวในวงการมอเตอร์ไซค์บ้านเราอีกท่าน
ไรเดอร์อีกท่านในทริปนี้ พี่แมค แห่ง “ขาติดถังหลังติดนม” นั่นเอง https://www.facebook.com/VRthairider
และที่สำคัญ รูปสวยๆในกระทู้นี้ส่วนใหญ่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่แมคนี่แหละ อิอิ
จบการอารัมบท เริ่มต้นการเดินทาง
หลังจากรับรถ เราก็ตั้งเข็มมุ่งไปโดยมีเงาอยู่เบื้องขวา จากเพชรเกษมตัดเข้าพุทธสาครออกพระรามสอง มาแวะตรงนี้เพื่อฝากเนื้อฝากตัวให้รอดปลอดภัยตลอดทริปกันก่อน
ว่ากันว่า นึกถึงเมืองเพชร หนึ่งในของดีก็ต้องมีลิงเขาวัง แต่กระนั้นหลายคนคงไม่รู้ เขาย้อยก็มีลิง
ถ้าไม่เชื่อ เลี้ยวซ้ายตรงนี้สิ….
ลิงปลอมไหมไม่รู้….
รู้แต่ว่า….ซนอย่างกับลิง!!
อ้ายไม่ได้มาสองคัน เรามาจอดรออีกคันหนึ่งที่วาร์ปลงมาจากไชเหมี่ยง ก่อนจอด โฉบสมาชิกพันทิปที่กำลังดุ่มๆอยู่บนถนนมาได้หนึ่งราย เจอตาแมนกำลังขี่ไปบ้านป่าหมากพอดี เลยโฉบมากินกาแฟด้วยกันซะเลย
หลังจากรวมกรุ๊ปเรียบร้อย เราก็เดินทางต่อไปจนถึงเวลาของมื้อเที่ยง ว่ากันว่าถ้าไม่มีสิ่งกินย่อมไม่ใช่กระทู้นี้
จัดง่ายๆลงใต้ก็ต้องแกงใต้ เห็นแกงหอยแล้วหรอยเลย ร้านข้าวแกงในปั้ม ปตท.ปรานบุรี จัดว่าเด็ด
ล้างคาวด้วยมะเขียวสักลูก เข็ดฟันเลยจ้า
บางกอก – สุราษฎร์ธานี ระยะทางกว่า 700หลัก กับสปอร์ตแท้พิกัด 200cc เป็นอะไรที่ไม่หนักแต่ก็ไม่เบา
หมอบฝ่าเปลวแดดยามบ่ายมาจนถึงเวลาเติมน้ำมัน รถน่ะสบายๆ แต่คนนี่สิแก่ไปหน่อย แวะเอนหลังหน่อยเถอะอย่าไปฝืน
ลากกันมายาวๆถึงสุราษก็มืดพอดี จิ้มห้องในอโกรอไว้ ได้ที่นี่ นอนได้2+1 ในราคา355 บาท นอนสบายอยู่นะ ชอบฟูกวางกับพื้นมากกว่าเตียงแหละ
มาเยือนเมืองหอยใหญ่ จะให้กินชายสี่คงไม่ใช่เรา เพื่อนนัดมาสอยหอยป้ายา จัดไปๆ กินมื้อนี้เลิกกินหอยไปอีกเป็นเดือน ใหญ่เวอร์วังอลังจริง!!
กลับห้องไปนอนพุงกางได้ไม่กี่ชั่วโมง เรามีนัดต้องตื่นตีห้าเพื่อไปพิชิตทะเลหมอกแดนใต้แห่งแรกกัน ไปครับพี่สุชาติ!!
ถามอากู๋แมฟบอกแปดสิบหลักนิดๆ วิ่งจริงๆผมว่ามีเกือบร้อยหลักนะเนี่ย
หลายคนอาจไม่รู้ ในฤดูฝนแบบนี้ หากฝนไม่ทิ้งช่วงหลายวันจนเกินไป เราสามารถขึ้นมาชมทะเลหมอกได้บนสันเขื่อนรัชประภา จุดชมวิวทะเลหมอกที่นี่สามารถเอารถขึ้นมาถ่ายกับวิวทะเลหมอกได้เลย จุดที่เราแนะนำคือสันเขื่อนแถวๆท่าเรือเทศบาลจ้า
แม้เช้านี้หมอกจะน้อยและบางตาเพราะฝนทิ้งช่วงไปหลายวันมาก แต่ภาพที่ได้มันก็ละมุนสบายได้ไปอีกแบบ ไม่เสียเที่ยวเลยที่ดั้นด้นมาเกินเจ็ดร้อยหลักเพื่อมาพิชิตทะเลหมอกแห่งนี้กับ GPX DEMON GR200R สปอร์ตพันธ์แท้ที่ขี่หล่อได้ แรงดี ใช้ได้หลากหลายภารกิจ แม้จะซัดยาวๆก็ไม่มีงอแง
ไทด์อินกันพอหอมปากหอมคอ มาชมกันหลายๆมุมยาวๆครับ ที่นี่สวยจริงๆ
ต่อกันอีกเซ็ท ที่นี่ถ่ายมาเยอะ ๕๕
ไปต่อกันครับวัยรุ่น ใกล้ๆตัวเขื่อน ยังมีแลนด์มาร์คให้แวะเที่ยวอีกแห่งที่ชาวสองล้ออย่างเราแวะไปเก็บภาพเด็ดๆไว้เป็นสตอรี่เล่าให้ลูกให้หลานฟังได้ตอนแก่ตัว สะพานแขวนวัดเขาพัง ยินดีนำเสนอเลยจ้า
บนสะพานแขวนนั่นแหละ เราจะขี่รถข้ามแล้วเก็บภาพกัน!!
ไม่เอานะไม่ดราม่า เพราะสะพานแขวนแห่งนี้ชาวบ้านเขาก็ใช้สอยขี่สองล้อข้ามกันไปมาเป็นกิจวัตร ทางสะดวกนะสหาย!!
สะพานแขวนวัดเขาพัง หรืออีกชื่อว่า “สะพานแขวนรูปหัวใจ”
ซ๊ารางงงงงงง
ถ่างตาตื่นตีห้ามาหาทะเลหมอก กว่าจะถ่ายกับสะพานเสร็จ เด็กๆตัวยาวในลำไส้ก็กรีดร้อง หน้าวัดเขาพังมีของดี เด็ดทุกหม้อ หร๊อยแรงทุกจาน ที่สำคัญให้ตักน้ำเองได้ อยากราดเท่าไร จะน้ำเยอะไก่แยะก็จัดไป ไม่แพงด้วยนะบอกเลยยยยยยยยยยยย
อิ่มแล้วก็เริ่มเหนียวตัว อาบน้ำล่าสุดก็เมื่อวานเย็น จิ้มดูระหว่างทางเจอที่หมายน่าแวะอีกแห่ง “ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด” แวะอาบน้ำที่นี่กันดีกว่า ลำธารน้ำผุดจากใต้ภูเขาเป็นน้ำแร่จากธรรมดา น้ำใสไหลเย็นสะอาด ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งพวง
ค่าใช้บริการราคาหกสิบห้าบาท รวมค่าเช่าเรือพายแล้วด้วย ที่สุดของความคุ้ม แต่แนะนำสักนิด ถ้าไม่เคยพายเรือจริงจังอย่าห้าวพายเอง จ้าคนพายเถอะ ๕๕๕ แต่ยังไงก็ห้ามพลาดนะ พายเรือชมวิวธรรมชาติ เพลินตาเพลินใจหาใดมาเปรียบเลยล่ะคุณ
ในส่วนของพื้นที่เล่นน้ำนั้นก็จัดว่าเด็ดมากกกก ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งพวงอีกเช่นกัน เล่นไปเกือบสองชั่วโมง แช่กันตัวเปื่อย ๕๕๕
ออกจากป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดมาเรื่อยๆ ได้สนุกกับโค้งขึ้นลงที่ลัดเลาะไปตามควนน้อยใหญ่ เจ้า GPX DEMON GR200R ช่วยให้เราสนุกกับโค้งได้อย่างเพลิดเพลิน มันดีจนแอบใช้พลังงานบางส่วนไปกับการใช้สมาธิที่มากขึ้น ออกมาได้สักชั่วโมงกว่าๆ เราก็แวะปั้มแล้วลงมติกันว่า จะรีบขึ้นไปบนเขาศูนย์ที่หมายต่อไปของเราตั้งแต่บ่ายกลางๆนั้น เห็นทีขึ้นไปก็ต้องไปหาที่นั่งหลบแดดเปล่าๆ หลบแดดมันในKFCนี่แหละ ว่าแล้วก็นั่งแช่แอร์กันไปกว่าสองชั่วโมง เรียบร้อยโรงเรียนผู้พัน เอวัง…
เป็นอีกทริปที่เอนจอยอีทติ้งจริงๆ ลงมาใต้มาได้สองวัน รู้สึกเหมือนลงมาสักเจ็ดวันเข้าไปแล้ว
กว่าห้าโมงเย็น เราถึงจะขี่ GPX ไหลตาม GPS มาเรื่อยๆจนถึงที่นี่ ทางขึ้นตอนนี้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี ขึ่ขึ้นแบบสบายๆ เหลือแค่ไม่มีเซเว่นข้างบนแค่นั้นแหละ นอกนั้นก็มีร้านค้า ร้านอาหาร มียันหมูกะทะให้บริการ ห้องน้ำก็สะอาด น้ำที่อาบก็ดีย์ เต็นท์ก็มีกางไว้รอพร้อมเครื่องนอนเสร็จสรรพ รออะไรล่ะพี่ วันหยุดยาวเก็บของไปเที่ยวที่นี่กันเถอะ
นั่งชมวิว ได้ยินเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มมาแต่ไกล หมุนเทเลลงไปดู ว๊าวววววเลย
จริงๆแล้ว ตามแผนของเราคือมาเก็บภาพทะเลหมอกยามเช้าของเขาศูนย์ แต่ด้วยความที่ๆนี่เป็นจุดชมวิวที่ชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในส่วนของวิวช่วงพระอาทิตย์ตกนั้น งดงามได้ใจเราไปอีกเต็มๆ ถึงขนาดว่า ถ้าพรุ่งนี้เช้าไม่ได้ภาพทะเลหมอก แค่ได้ภาพบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกที่นี่ ก็คุ้มค่าที่เราดั้นด้นหมอบตัดลมกันมากว่าพันหลักเพื่อเอาสถานที่แห่งนี้มาแนะนำให้กับเพื่อนๆแล้วล่ะ เป็นโมเมนต์หนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าความพยายามของเรามันคุ้มค่าแล้ว และเรามีความสุขมากที่จะได้เอาภาพจากที่นี่กลับมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ชมกัน
ถ้าเป็นช่วงที่เหงาจัดๆนะ วิวแบบนี้นี่อินเนอร์กับเพลงในหัวนี่จะลอยมาเต็มๆ
ตะวันลับฟ้า เมื่อตอนเย็นๆ จะเป็นเวลาที่ใจหาย…อะไรงี้ มาเต็มๆแน่นอน
คืนก่อนจัดหนักกับหอยใหญ่ไปแล้ว คืนนี้เลยขอเบาๆกับวงหมูกระทะบนยอดเขาศูนย์ กินหมูกันพอกรึ่มๆแล้วก็มุดเต็นท์ นอนสบาย เย็นสบายกำลังดี เป็นอีกคืนที่ต้องบอกว่า ดี๊ดีย์
อ่อ คืนนี้เราเลือกใช้บริการของ https://www.facebook.com/panidlungtin บริการดี อัธยาศัยน้ำใจเยี่ยม ราคาโอเค หลังที่เรานอนนี่นอนได้สามคนพร้อมปูที่นอนให้นุ่มๆกับหมอนและผ้าห่ม มาแต่ตัวเลยก็ได้ เราเลือกเต็นท์ฝั่งตะวันตกเพราะอยากตื่นสาย ๕๕๕
นอนไม่ค่อยหลับกระสับกระส่าย กังวลใจว่าฝนไม่ตกมาหลายวัน ตอนเช้าหมอกจะมาหาเราไหม หวั่นใจจนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ตื่นมาตามเวลา….แม้จะไม่ใช่ทะเลหมอกปุยๆหนาๆ แต่ทะเลหมอกจางๆแบบนี้กับยอดไม้และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มันก็ดูมินิมอลไปอีกแบบ สุขไปอีกอย่าง
เอาเป็นว่าเป้าหมายสามทะเลหมอกของทริปนี้เรียกได้ว่าสำเร็จไปสองในสามแล้วล่ะ
อะไรจะดีเท่านี้ เสพวิวอิ่มๆ แล้วมาเสพชา กาแฟ ปาโก๋อุ่นๆ ตบตูดด้วยไข่ลวก โอยยยยยย มันคือดีแท้
ลงจากเขาศูนย์มาตอนสายๆ ไหลมาเรื่อยๆจนมาสะดุดกับตรงนี้ ร้านหนมจีนแกงใต้หน้าตาบ้านๆนี่เจ็บทุกร้านแหละบอกเลย
มาถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า ขอให้รวยๆๆ เฮงๆๆ ไม่เจ็บไม่จนไม่ล้มไม่ชนกันทุกท่านนะครับ ขอให้ตาไข่ให้พรทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้เลยจ้า
มาถึงเรือนมาเยือนถึงถิ่น เจ้าถิ่นพาไปส่งวัดเจดีย์แล้วยังไม่หนำ พามาว้าวที่เขาพลายดำกันต่ออีก ขอบคุณครูอ๊อฟไว้ ณ ที่นี้ ด้วยครับ
หลังจากเขาพลายดำ เราก็หวดมานอนกันแถวหลังสวน เพื่อที่ตอนเช้าจะมาเก็บทะเลหมอกแห่งที่สามของทริปนี้ครับ จุดชมวิวทะเลหมอกเขาออง อ.หลังสวน จ.ชุมพร เช่นกันครับ ทริปนี้เราไม่เจอฝนเลยแม้แต่เม็ดเดียว โอกาสจะได้หมอกหนาๆแน่นๆก็เลยน้อยลงไป แต่ก็ยังพอได้อยู่นะ เอาเป็นวว่าทริปนี้เราได้ทะเลหมอกครบทั้งสามแห่ง ถึงคะแนนความแน่นของหมอกอาจจะน้อยไปนิด แต่คะแนนความสวยงามนั้นก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนเนอะ
หลังจากจบภารกิจสามทะเลหมอก เราก็บิดหน้าตั้งฝ่าสายฝนมายาวๆจากหลังสวน มาค่ำเอาที่นี่ เลยตัดสินใจพักผ่อนริมทะเลกันสักคืน ตื่นเช้ามากับเสียงคลื่นที่สาดซัดหาดทรายเบาๆดังสู้ๆ(ซู่ๆ) เป็นรางวัลของนักเดินทางแบบเราให้ได้พักผ่อนเพื่อวางเป้าหมายของการเดินทางครั้งต่อไป
ทะเลหมอก อาจเป็นเรื่องที่คุ้นชินสำหรับการที่สายทัวร์ริ่งจะเก็บของ หยิบกุญแจ สตาร์ทเครื่องยนต์ และบิดออกไป
แต่สำหรับสายสปอร์ต เป็นอะไรที่แม้แต่ผู้เขียนเองก็ไม่เคยหาทำ
ด้วยวัยที่เลยหลักสี่ สังขารหยาบๆที่เริ่มติดขัด แถมยังหนักพุง…
ตอนนึกภาพตัวเองขี่คร่อมเจ้า GPX DEMON GR200R ในระยะทางสักร้อยหลัก แค่มโนก็เมื่อยหลังเมื่อยคอจี๊ดๆแล้ว
เอาจริงๆเป็นทริปที่คิดหนักพอสมควรว่า “ร่างกาย” เราจะไหวหรือไม่ไหว
แต่บทสรุปของทริป มันเกินความคาดหมายกว่าที่คิดไว้อยู่ไม่น้อย
ด้วยระยะทางกว่า 1,800 กิโลเมตร จึงเป็นบททดสอบของทั้งคนและรถที่จะพึ่งพากันและกัน
กายภาพของรถที่เป็นสายสปอร์ตอย่างเต็มตัว ทั้งแฟริ่งและเฟรม ไปจนถึง Riding position ที่ทำให้เราเรียนรู้ที่จะต้องปรับตัว
และเมื่อระยะทางผ่านไปถึงจุดหนึ่ง ท่าทางการขับขี่ที่ปรับไปอย่างตรงตามหลักการ ก็สำแดงผล
ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับรถได้ไม่ยาก และมันก็ไม่ได้ปวดหลังเท่าที่คิดเอาไว้ ถ้าคิดเอาไว้สักสิบ เอาจริงๆแล้วเหลือไม่ถึงห้าเลยล่ะ
GPX DEMON GR200R ในทรรศนะของข้าพเจ้า
ผมเคยมีโอกาสได้ลองขี่ ลองใช้งาน GPX DEMON GR200R อยู่หลายครั้ง ทั้งโอกาสที่เทสบนถนนจริงของรอบสื่อ และระหว่างที่รอส่งคืนรถก็ได้หยิบจับมาใช้งานอยู่ไม่น้อย แม้จะต้องยอมรับตรงๆว่าทรงสปอร์ตนี้ไม่ถูกจริตผม แต่มันก็เป็นรถที่ควรถูกกล่าวถึงในปี 2563 นี้อย่างแท้จริง
ความสวยงาม สรีระทั้งหมดของ GPX DEMON GR200R กว่าโดยรวมแล้ว แม้ความสวยความงามเป็นเรื่องปัจเจก และมีความแตกต่างกันไปตามรสนิยมและมุมมอง แต่เชื่อว่าผู้คนโดยส่วนมากรวมถึงผมมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า รูปร่างหน้าตาของ GPX DEMON GR200R นั้น “สวย” และค่อนไปทาง “โคตรสวย” มันสวยจนไม่ค่อยเชื่อว่ามันคือมอเตอร์ไซค์ในพิกัด 150cc-200cc ที่ผลิตและประกอบในบ้านเรา โดยดีไซน์จากทีมออกแบบที่เป็นคนไทย โดยแบรนด์ที่สร้างขึ้นโดยคนไทย เป็นอุตสาหกรรมของคนไทยที่เติบโดขึ้นมาโดยใช้ระยะเวลาราวๆสิบปีจนมาถึงจุดนี้ กล่าวให้หนักกว่านั้นคือดีไซน์แบบนี้มันข้ามชั้นไปชกกับ 250cc-400cc ที่มีจำหน่ายในบ้านเราได้อย่างสบายๆ และที่โดดเด่นก็คือชุดไฟหน้าที่สวยเกินเบอร์เกินหน้าเกินตาเพื่อนในคลาสเดียวกันไปไกล ความสว่างของไฟหน้าในเวลาที่ต้องเดินทางกลางคืนนั้นก็ค่อนไปทางดี โดยย่านความเร็วที่ใช้ก็ไม่อึดอัดขนาดที่จะไปเรียกร้องหาสปอร์ตไลท์มาใส่เพิ่มให้เสียทรงแต่อย่างใด ที่สำคัญกว่านั้นตรงชุดมาตรวัดต่างๆนี่พ่อเจ้าประคุณเอ้ยยยย พี่ทำมาฟัดกับคลาส600หรืออย่างไร สวยและใหญ่ใช้งานได้ดีเป๊ะๆ การADJต่างๆนั้นแรกๆยอมรับว่างงถึงงงมากและงงมากๆ แต่พอคุ้นมือกันแล้ว เออ มันแปลก แต่มันก็ดีนะ ฟังค์ชั่นต่างๆที่ให้มาเนี่ย เหลือแค่AVGอัตราบริโภคน้ำมันเท่านั้นเองที่ยังไม่ให้มา นอกนั้นก็ครบๆเกินคลาสไปแล้วล่ะโยม
ท่าทางการขับขี่ แม้หน้าตาจะถูกวางให้เป็นสปอร์ตจ๋าๆเต็มตัว รวมไปถึงตำแหน่งแฮนด์ที่จับใต้แผงคอบน แถมยังท่านั่งที่เมื่อนั่งแล้วมือที่จับแฮนด์แทบจะอยู่ในระดับเดียวกับหัวเข่า ทรงถังน้ำมันที่โป่งด้วยสันคมที่มีช่องเว้าเข้าไปให้เอาเข่าไปหลบลมได้ ทั้งหมดสร้างแอร์โรว์ไดนามิกที่ลดแรงเสียดทานของอากาศที่จะมาประทะตัวรถและผู้ขับขี่ได้ยอดเยี่ยมเมื่อจัดวางท่าทางการขับขี่ให้เน้นสมรรถนะทั้งหมดออกมา แต่เมื่อในเวลาที่ต้องการใช้งานทั่วไปหรือจัดท่าทางเพื่อขับขี่ระยะไกลหลายๆร้อยกิโลเมตร ผู้ขับขี่ยังสามารถจัดท่าทางให้ขับขี่โดยที่ไม่ปวดหลังได้เท่าที่จินตนาการเอาไว้ เช่นในการเดินทางวันแรกจากบางกอกถึงสุราษฏนั้น เอาจริงๆอาการปวดหลังน้อยกว่าที่คิดมากมาย ไปหนักที่ปวดไหล่เพราะเวลาล้มแล้วเป้สะพายหลังมันไม่พ้นลมทั้งหมด ลมจึงดันให้สายสะพายเป้มันรั้งหัวไหล่มากขึ้น กลายเป็นแบบนั้นไป ถ้าได้เป้ที่ลู่ลมได้ดีกว่านี้ อาการนี้ก็จะลดลงแน่นอน
เครื่องยนต์ ในตลาดรถ150cc บ้านเรานั้น ค่อนข้างจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดอยู่ไม่เบา บรรดาค่ายกระแสหลักลงมาสู้กันเกือบครบๆ แต่ละตัวที่เอามาสู้กันนั้นก็ไม่ใช่เอาของทั่วๆไปมาวัดกัน เรียกได้ว่าในพิกัด150ccนั้นในบ้านเรานี่ไม่อายใครบนโลกใบนี้ การที่ค่ายน้องใหม่จะเบียดเข้ามาตรงนี้นั้น นอกจากเอาดีไซน์มาสู้แล้ว ก็ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาในส่วนของพละกำลังให้ได้ด้วย ซึ่งขอสรุปว่าเครื่องยนต์ 200cc ระบายความร้อนด้วยน้ำตัวนี้ ทำมาได้ดีจนนับเป็นอีกก้าวของเครื่องยนต์ที่ติดตั้งใช้งานและวางจำหน่ายโดยGPX ความนุ่มนวลของเครื่องยนต์ที่ได้รับทำให้เราต้องลืมเครื่องยนต์ตัวอื่นๆของค่ายนี้ตั้งแต่พิกัด150cc-200cc ทุกตัว โดยเฉพาะระบบเกียร์นั้น ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงนี้หลายท่านยังประหลาดใจว่ามันนุ่มนวลได้เบอร์นี้เลยหรือ
การลดแรงสั่นสะเทือนต่างๆของเครื่องยนต์ก็จัดว่าทำได้ดีมาก ใกล้เคียงเครื่องจากแดนปลาดิบมากที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมา แม้จะมีเพียงแค่ 2 วาลว์ แต่ด้วยccที่ชดเชยมาให้อีก 50cc ทำให้กล้าพูดได้ว่า ออกทริปกับ150cc ในบ้านเราได้สบายๆ ความเร็วตามเรือนไมล์ที่ทำได้นั้นไหลไปได้ถึง 147km/hrs เลยทีเดียว แม้รอบจะหมดไวไปนิด(เพราะมันขึ้นไวด้วยแหละ) แต่ในรอบที่หมดไวนั้นกลับให้ความรู้สึกของพลังกำลังที่ไม่ได้แคบหรือกีดกั้นจนอึดอัด ในแต่ละเกียร์ที่ทำได้ยังรู้สึกว่ารอบมันไปได้อีกหน่อยด้วยซ้ำ แรงต้นดี แรงกลางเยี่ยม ปลายไหลได้ โดยรวมแล้วใช้งานในเมืองก็สนุก ขี่ทางไกลก็ไม่อึดอัดแต่ประการใด
ช่วงล่าง ด้วยจุดเด่นของGPXที่มักจะให้ของที่ดูดีติดรถมาให้ และก็แน่นอนว่าสปอร์ตเรือธงของค่ายนี้นั้น ระบบกันสะเทือนหน้าแบบช๊อคอัพหัวกลับ[USD]นั้นเป็นของที่แทบจะเอาคอไปรับประกันได้เลยว่า “ของมันต้องมี” และของที่มีมาให้ก็หาได้จัดของไม่ดี ฟันให้เลยว่ามันค่อนไปทางดีมากจดเกือบจะยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ที่การปรับตั้งค่า SAGให้เข้ากับน้ำหนัก และสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน ค่ากลางๆที่ให้มานั้นในระดับการใช้งานทั่วไปนั้นครอบคลุมเพียงพอแล้ว
ช๊อคอัพหลังที่ติดรถมาให้นั้นก็มากับพาร์ทเนอร์แบรนด์ไทยที่ไปอินเตอร์เรียบร้อยแล้วอย่าง YSS ที่เอามาวางไว้บนชุดกระเดื่องทดแรงด้านหลัง ซับแรงกระทำที่จะส่งมาถึงสวิงอาร์มหลังกับเฟรมของรถได้ดีพอที่จะใช้รหัสที่เป็นสปอร์ต
โดยรวมแล้วทั้งหน้าหลังแม้จะไม่ได้ให้ความรู้สึกที่คมกริบ ในโค้งแคบๆ แต่ในโค้งระดับกลางและโค้งความเร็วสูงนั้นมันมั่นคงและเอาอยู่ การควบคุมรถให้เอนเข้าไปในโค้งนั้นก็ไม่ต้องใช้แรงใช้ลุ้นอะไรมากมาย ควบคุมไปตามธรรมชาติมันก็เลื้อยไหลลงไปแบบหวานๆ เป็นสปอร์ตอีกคันที่พูดได้เลยว่า “ขี่ง่าย” และใช้งานทั่วไปได้ครอบคลุมดี
เบรคหรือระบบห้ามล้อ และยาง เบรคหน้าหลังจับดิสก์ได้อยู่สมตัวพอดีไม่มีทื่อ ด้วยความเร็วที่รถทำได้นั้นตัวเบรครองรับได้เกินพอ ฟีลลิ่งการไล่น้ำหนักเบรคนั้นก็พัฒนาไปได้อีกจนใกล้เคียงกับของดีที่ต้องแต่งเพิ่ม ถ้าไม่ถึงขนาดเอาไปลงสนามก็เอาอยู่แบบรวมๆได้เหลือๆ อยากได้เป๊ะกว่านี้ก็ลองไล่เทียบผ้าเบรคเกรดดีกว่านี้ได้เลย
ยางติดรถใช้งานทั่วไปได้ไม่เคอะเขิน ทางแห้งไปได้ดีไม่มีติดขัด ทางเปียกต้องยั้งบ้างระวังบ้างตามวิสัยของยางติดรถ ก็ธรรมดานะ ดอกยางแบบนี้จะไปเปิดrain mode อะไรกันหนักหนาได้ล่ะโยม
บทสรุป ด้วยราคาที่เป็นมิตร และหน้าตาที่โดนใจ ความโอเคของเครื่องยนต์ที่ซัดหมดปลอกไกลๆร่วมสองพันกิโลเมตรก็ยังไม่แสดงอาการติดขัด และภาพรวมทั้งหมดทั้งคันที่ได้ ก็ต้องเล่าต่อว่ามันเป็นรถที่เหมาะกับทั้งมือใหม่ที่กำลังอยากก้าวขึ้นมาจากรถบ้านๆทั่วๆไป และเป็นรถที่เหมาะกับจะเป็นรถครูสำหรับคนที่อยากเข้าสู่สายหมอบสปอร์ตหล่อๆ ขี่ไปทำงานก็หล่อดี ขี่ไปเที่ยวก็หล่อเหลา ขี่ไปเหลายางในสนามก็พร้อมลุย มันดีพอที่จะเป็นรถครูที่เอาไว้เตรียมทักษะที่จะพัฒนาขึ้นไปสู่ความเร็วและแรงกว่านี้ได้สบายๆ ตัวเครื่องที่ดูแล้วเอามาปรับอีกหน่อยก็ไปได้ดีกว่านี้แน่นอน และมันดูคุ้มค่าในราคาที่แลกเปลี่ยน การบริการหลังการขายก็อยู่ในระดับดี สำคัญที่หลายๆคนนี่แหละ กล้าที่จะเปลี่ยนใจหรือยัง