สำหรับ รีวิว New GPX DRONE 4 วาล์ว ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นกลายเป็นรีวิวที่ด่วนมาก ๆ และน่าจะถูกใจสาวกออโตเมติกอย่างแน่นอน เพราะเราเชื่อว่าหลาย ๆ คน คงจะสงสัยว่าโมเดลใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ที่อัปเกรดเพิ่มวาล์วเข้ามานั้นดีอย่างไร คุ้มค่าหรือไม่ บอกตรงนี้สั้นๆ ไว้ก่อนว่าโดรนใจแน่นอน
โดดเด่นโฉบเฉี่ยวโดรนใจ
ในเรื่องดีไซน์นั้นถือว่าโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยมากๆ โดยเฉพาะในส่วนไฟหน้าและไฟท้ายที่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แค่เห็นก็รับรู้ได้ว่านี่คือ Drone ไซเบอร์เทร็ค AT ที่สำคัญคือเป็น Full LED เต็มระบบ
โดยด้านหน้าจะมีไฟหน้า LED 10 ดวง แบบ 2 ชั้นพร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิงไลท์ ส่วนไฟเลี้ยวด้านหน้าจะเป็นแบบบิลต์อินอยู่ด้านบนของแฟริ่งด้านหน้าดูเนียนไปกับตัวรถ
ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ 3 มิติ ดีไซน์รูปตัว Y ดูสวยงามโดดเด่น และเพิ่มความสปอร์ตด้วยโคมสีสโมค นอกจากนี้ตัวรถยังมีไฟฉุกเฉินด้วยซึ่งรถในพิกัดนี้หลาย ๆ คันไม่มีนะเออ
และสุดท้ายเรือนไมล์ทรงสปอร์ตแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ บอกข้อมูลครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็ว มาตรวัดรอบ วัดแรงดันไฟแบตเตอรี ทริป เวลา ระดับน้ำมัน กระทั่งรอบการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พร้อมสีสันที่คมชัดแม้ยามแสงจ้า
เครื่องใหม่ 4 วาล์ว ทั้งแรงทั้งประหยัด
เครื่องยนต์ใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ SYM ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐานระดับโลก เป็นเครื่องยนต์แบบสูบเดียวขนาด 149.6 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด แต่เพิ่มเป็น 4 วาล์ว ซึ่งทางโรงงานระบุว่าช่วยให้มีกำลังแรงบิดที่ดีขึ้น ส่งผลให้ได้อัตราเร่งที่ดีขึ้น รอบต้นตอบสนองได้ดีขึ้น ทำให้รอบต้นช่วงออกตัวดีขึ้น 28% และยังทำให้ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 16%
จากการทดสอบพบว่ารอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ออกตัวเดินเนียนนิ่งให้กำลังในรอบต้น ๆ ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของความเร็วปลายก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม เพียงแต่เครื่องยนต์ตัวนี้ทำงานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นภายหลังจากอัปเกรดเป็น 4 วาล์ว การจุดระเบิดไอดีในห้องเผาไหม้และการคลายไอเสียทำได้ที่ดีกว่าเดิม ทำให้เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลังเครื่องยนต์ได้ดีขึ้นและยังส่งผลไปถึงความประหยัดที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
มาเข้าเรื่องฟีลลิ่งเครื่องยนต์ตัวนี้กันชัด ๆ กันเลยดีกว่า ในช่วงรอบต้นจัดจ้านกว่าเดิม ช่วงความเร็วจาก 0 – 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าความเร็วรอบต้นทำได้อย่างที่โรงงานเคลมมาจริง ออกตัวดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ส่วนความเร็วปลายทำได้ 120 กิโลเมตร /ชั่วโมง โดยประมาณ ส่วนตัวคิดว่าสามารถทำได้มากกว่านี้อีก ขึ้นอยู่ตัวแปรต่างๆ อย่างน้ำหนักผู้ขับ ทิศทางลม แต่ก็ถือว่าสำหรับเครื่องยนต์พิกัด 150 ซีซี เดิมโรงงานทำได้ประมาณนี้ถือว่าโอเคเลย
สำหรับการใช้งานในเมือง การใช้ความเร็วในการเลี้ยวทรงตัว ในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ๆรถติด ๆ และการใช้คันเร่งในการซอกแซกถือว่าคันเร่งนั้นตอบสนองได้ดี ฟีลลิ่งการเปิดคันเร่งจะเบา ๆ บิดสบาย ๆ ง่ายและคล่องตัว เมื่อรวมไปถึงการขับเคลื่อนด้วยระบบสายพานก็ยิ่งเพิ่มความนุ่มได้เป็นอย่างดี
สำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้ที่ทางโรงงานเคลมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดมากขึ้น สังเกตที่ ECO Sticker จะอยู่ที่ 37 กิโลเมตร/ลิตร โดยประมาณ ในงานในเมืองบวกลบนิดหน่อยตามสภาวะจราจรและนิสัยการเปิดคันเร่งผู้ขับขี่ ซึ่งตัวเลขประมานนี้ถือว่าประหยัดใช้ได้เลย น้ำมันเชื้อเพลิง 1 ถัง ใช้เพลิน ๆ มันๆ มือ 200 กิโลเมตรสำหรับความจุถัง 7.5 ลิตร ส่วนตัวผมคิดว่าทำได้อย่างแน่นอน
จากการทดสอบใช้งานในเมือง ๆ ขับขี่จาก รัชดาภิเษก พระราม 7 สนามหลวง ราชดำเนิน ตรอกข้าวสาร เสาชิงช้า ขี่ไปประมาณ 150 กิโลเมตรกว่า ๆ น้ำมันแสดงบนหน้าจอดิจิทัลเหลือ 2 ขีด แต่ถ้าสังเกตดี ๆ 2 ขีดแรกจะลดไวกว่าขีดอื่นๆ ซึ่งโดยรวมก็ถือว่าโอเคเลยนะครับสำหรับการใช้งานในมือง
ฟีลลิ่งท่านั่ง การขับขี่ บังคับเลี้ยว
สำหรับการขับขี่ทดสอบในเมือง ต้องชมในเรื่องของระยะความกว้างของแฮนด์เลย เพราะมันมีระยะที่พอดิบพอดีไม่กว้างมากจนเกินไป แถมเลี้ยวง่าย ทำให้ขับขี่ซอกแซกช่วงเวลารถติด ๆ ทำได้ดี ส่วนตำแหน่งท่านั่งก็จัดวางให้อยู่ช่วงกลางลำตัวรถพอดี เมื่อรวมกับตัวเบาะที่ออกแบบมาได้สัดส่วนความกว้างพอดี ก็ทำให้ขาไม่กางมากจนเกินไป
นอกจากนี้ตำแหน่งพักเท้าก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่พอดี สามารถที่จะวางขาแบบยืดไปข้างหน้าเวลาเดินทางไกล ๆ หรือไว้สำหรับยืดเส้นยืดสายคลายเมื่อยขบก็ทำได้ไม่เกะกะ ถือว่าออกแบบมาตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการออกทริปได้ดีทีเดียว
ช่วงล่างจัดว่าดี
สำหรับส่วนของช่วงล่างต้องขอพูดถึงในส่วนของระบบเบรกก่อนเลย เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นในเซ็กเมนต์นี้ พอได้ลองขับขี่ทดสอบก็พบว่าเป็นรุ่นที่ให้เบรกมาจากโรงงานที่ฟีลลิ่งดีมาก ๆ กระชับและมั่นใจ อาจจะเป็นเพราะเทคโนโลยีกระจายแรงเบรกอย่าง CBS ด้วย บวกกับขนาดจานหน้าที่ใหญ่ถึง 260 มม ทำให้การเบรกจากความเร็วสูง ๆ ได้ระยะที่สั้นและปลอดภัยกว่าเดิม
สำหรับในส่วนของระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเซ็ตออกมาได้ดี เก็บรอยต่อถนนได้เนียนดี ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการออกแบบบาลานซ์น้ำหนัก ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของตัวรถอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้การทำงานของโช้คหน้าทำงานได้อย่างดี ขอชมเลย
สำหรับโช้คอัพคู่ด้านหลังให้ฟีลลิ่งที่นุ่มนวลดีอยู่แล้ว แต่ก็สามารถปรับค่าพรีโหลดหรือความแข็งอ่อนของสปริงได้ถึง 3 ระดับ จึงสามารถปรับให้กระชับได้เพิ่มได้ ส่วนตัวที่ขับขี่ทดสอบในเมือง ถ้าขับขี่คนเดียวมีสัมภาระนิดหน่อย การเซ็ตค่าจากโรงงานก็เพียงพอแล้ว แต่ไบค์เกอร์ท่านไหนที่มีผู้ซ้อนหรือสายแบก สายขน ก็สามารถปรับค่าสปริงให้แข็งขึ้นมาอีกหน่อย เพื่อจะได้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่และรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
และสำหรับตัวล้อแม็กขนาด 14 นิ้วทั้งหน้าและหลัง อันนี้สวยงามและใช้งานดีอยู่แล้ว ตอบโจทย์สายสกูตเตอร์เลยละ
ลูกเล่นครบถ้วน
GPX Drone เป็นสกูตเตอร์ แน่นอนว่าเราก็ต้องคาดหวังลูกเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวกกันพอสมควร ซึ่งทางค่ายก็จัดให้ไม่ผิดหวัง มีทั้งระบบกุญแจแบบคีย์เลสหรือกุญแจรีโมทพร้อมกันขโมย ซึ่งใช้เปิดการทำงานตัวรถ ล็อครถ เปิดปิดกันขโมย พร้อมกุญแจสำรองในตัวเพื่อใช้ยามฉุกเฉินกรณีแบตกุญแจหมด พร้อมชุดควบคุมอัจฉริยะสตาร์ทรถ เปิดปิดเบาะแค่เพียงบิดสวิตช์ ซึ่งตรงนี้สะดวกสบายและทันสมัยจริง ๆ
แน่นอนว่าเรื่องช่องเก็บของก็ถือว่าทำมาได้ดีพอสมควร โดยช่องเก็บของด้านหน้าพร้อมช่องจ่ายไฟแบบ USB ขนาด 2 แอมป์ ชาร์จไฟได้เร็วแรงกว่าพอร์ต USB ปกติ ส่วนช่องเก็บของใต้เบาะนั้นสามารถใส่หมวกกันน็อกเต็มใบได้ 1 ใบครับ
สรุป
แม้ว่ารูปลักษณ์ยังคงดีไซน์เดิม มีไฟหน้าสวย ไฟท้ายเท่ เส้นสายแปลกตามีคาแรคเตอร์ มีเพียงสติ๊กเกอร์ตัวใหม่บ่งบอกความเป็น 4 Valves ที่เพิ่มเข้ามาพร้อมกับสีสันใหม่ที่โดนใจมากขึ้น สิ่งที่เด่นนอกจากหน้าตาก็จะมีเรื่องระบบเบรกอันนี้แจ่มมาก และแน่นอนว่าเครื่องยนต์ที่พัฒนามาเป็นแบบ 4 วาล์ว ที่ทั้งแรงขึ้นและประหยัดขึ้น อีกทั้งยังขี่ง่ายคันเร่งเบา รอบต้นบิดติดมือดี ขับขี่ได้สนุก
ส่วนใครที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ไม่ต้องเสียใจไปนะครับ สมัยนี้หลาย ๆ สำนักแต่งปรับแต่งให้แรงกันไม่ยากแล้ว เปิดองศานิด ขยับไซส์หน่อย ก็วิ่งกันปรู๊ดปราดแล้วละครับ
บอกเลยว่าใครที่กำลังมองหาสกูตเตอร์พรีเมี่ยม คาแรคเตอร์ชัดเจน DRONE ตัวนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยจะมีรุ่นย่อยจำหน่ายดังนี้
- รุ่น Standard มี 1 สี คือสีดำ Jet Black ราคาแนะนำที่ 68,900 บาท
- รุ่น Keyless มี 3 สี ได้แก่ สีแดง Energetic Red, สีส้ม Vibe Orange และสีขาว Urban White ราคาแนะนำที่ 72,800 บาท
- รุ่น Keyless สีพิเศษ คือสีน้ำเงินเข้มด้าน Midnight Blue ราคาแนะนำที่ 73,800 บาท
โดยทุกรุ่นจะมีการรับประกัน 3 ปีหรือ 30,000 กม. และสามารถไปดูตัวจริงได้ที่ศูนย์ GPX ทุกสาขาทั่วประเทศได้เลย